Skip to content
CFNT Logo
  • เกี่ยวกับเรา
  • งานวิจัย
  • บทความ
  • สื่อ
  • กิจกรรม
  • สมาชิก
  • EN
  • TH
  • EN
  • TH

โซลาร์เซลล์

งานวิจัย

ใช้พลังมวลชน: เพิ่มการเข้าถึงเงินทุนเพื่อติดตั้งโซลาร์ครัวเรือนด้วยโมเดลคราวด์ฟันดิงในไทย

ประเทศไทยมีศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์อย่างล้นเหลือแต่ความก้าวหน้าในการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์นั้นกลับเป็นไปอย่างเชื่องช้าโดยไม่อาจเติมเต็มศักยภาพที่มี รายงานฉบับนี้สำรวจความเป็นไปได้ในการใช้การระดมทุนจากมวลชนหรือคราวด์ฟันดิงในฐานะแหล่งเงินทุนทางเลือกเพื่อปิดช่องว่างในการหาเงินทุนสำหรับการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาในภาคครัวเรือน   เราเสนอโมเดลระดมทุนจากมวลชนที่สอดคล้องกับบริบทไทย 6 รูปแบบประกอบด้วย ผ่อนจ่ายตามเงินที่ประหยัดได้ (Pay-As-You-Save) ที่ช่วยให้ครัวเรือนติดตั้งแผงโซลาร์โดยไม่ต้องจ่ายเงินลงทุนตั้งต้น และผ่อนชำระค่าแผงโซลาร์ตามค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ในแต่ละเดือน พอร์ตฟอร์ลิโอแผงโซลาร์บนหลังคา คือการรวบรวมแผงโซลาร์ที่ติดตั้งอยู่บนหลายหลังคาเรือนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน ร่วมมือกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือการนำเงินไปลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์ในโครงการบ้านจัดสรรแห่งใหม่ ผ่อนชำระผ่านใบเรียกเก็บค่าสาธารณูปโภค (On-bill financing) คือการผ่อนชำระค่าแผงโซลาร์ผ่านใบเรียกเก็บค่าสาธารณูปโภค ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ไม่เชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าโดยจ่ายชำระเท่าที่ใช้งาน (Off-grid Pay-As-You-Go) นำเสนอทางเลือกที่ยืดหยุ่นสำหรับชุมชนที่อยู่นอกกโครงข่ายไฟฟ้าให้สามารถเข้าถึงไฟฟ้า  แผงโซลาร์บนหลังคาอาคารหน่วยงานภาครัฐ คือการติดตั้งแผงโซลาร์บนอาคารภาครัฐโดยไม่แสวงหากำไรโดยแบ่งปันผลประโยชน์ที่ได้กลับคืนให้หน่วยงาน  โมเดลเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคเรื่องเงินลงทุนตั้งต้นในการติดตั้งแผงโซลาร์และดึงดูดนักลงทุนเน้นผลลัพธ์  แต่โมเดลเหล่านี้จะสำเร็จได้ก็จำเป็นต้องมีนโยบายสนับสนุนที่แข็งแกร่ง คณะวิจัยเสนอว่าภาครัฐควรเสริมสร้างแรงจูงใจทางการเงิน ดำเนินนโยบายหักกลบลบหน่วยไฟฟ้า เพิ่มความคล่องตัวในกระบวนการอนุมัติ และเปิดให้มีการแข่งขันในตลาดการผลิตไฟฟ้า การดำเนินนโยบายเหล่านี้จะช่วยให้ประเทศไทยปลดศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์ บรรลุเป้าหมายพลังงานหมุนเวียน และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่ยุติธรรม  บทสรุปผู้บริหาร (ภาษาไทย) รายงานการวิจัยภาษาไทยฉบับสมบูรณ์ Full Paper in English

โดยCFNTวันที่13/11/2413/02/25
บทความ

V2G สร้างรายได้จากยานยนต์ไฟฟ้าให้รถเป็นโรงไฟฟ้าขนาดจิ๋ว ในฐานะ ‘แบตเตอรี่มีล้อ’

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายประเทศรวมถึงไทย ลังเลที่จะเปลี่ยนผ่านการผลิตพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลสู่พลังงานหมุนเวียน คือความไม่เสถียรของระบบผลิตไฟฟ้าคาร์บอนต่ำ เนื่องจากเราไม่สามารถควบคุมลมฟ้าอากาศได้ กำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมและแสงอาทิตย์จึงผันผวนแบบนาทีต่อนาที ต่างจากโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือก๊าซธรรมชาติที่สามารถกดปุ่มเปิดปิดตามความต้องการ เหล่านักวิทยาศาสตร์และวิศวกรต่างพยายามคิดค้นนวัตกรรมเพื่อจัดการความผันผวนของพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ หนึ่งในนั้นคือแบตเตอรี่สำหรับเก็บประจุไฟฟ้า ซึ่งเปรียบเสมือนข้อต่อที่ช่วยจัดการความไม่สมดุลระหว่างกำลังการผลิตไฟฟ้าและความต้องการใช้ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม เหล่าประเทศที่ต้องการลดการปล่อยคาร์บอนก็ยังเผชิญกับความท้าทายสำคัญ คือต้นทุนค่าแบตเตอรี่ที่ปัจจุบันยังนับว่าแพงแสนแพง หากจะติดตั้งแบตเตอรี่ที่จ่ายไฟเพียงพอสำหรับบ้านหนึ่งหลัง ก็อาจต้องใช้งบประมาณราวครึ่งล้านบาท แต่ความนิยมของยานยนต์ไฟฟ้าอาจเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส เพราะคนจำนวนมากยอมควักกระเป๋าเงินร่วมล้านเพื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้า หรือ ‘แบตเตอรี่ที่มีล้อ’ เท่ากับว่าถ้าประเทศไหนมีโครงข่ายไฟฟ้าหรือกริดที่ฉลาดเพียงพอ ก็จะสามารถรับซื้อไฟฟ้าจากรถยนต์ไฟฟ้าที่เสียบชาร์จอยู่ได้ ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ทำงาน เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าที่พุ่งสูงในบางช่วงเวลา  แนวคิดดังกล่าวเรียกว่าการจ่ายไฟฟ้าจากยานยนต์สู่กริด (vehicle-to-grid) หรือ V2G ซึ่งมีโครงการทดลองหลายแห่งทั้งในสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น โดยที่ Renault-Nissan-Mitsubishi พันธมิตรสามค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่เป็นเจ้าตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีรับและจ่ายไฟฟ้าในคันเดียวกัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกิดความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในแวดวง V2G คือการที่ บริษัท Octopus Energy รับซื้อไฟฟ้าเชิงพาณิชย์จากยานยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในสหราชอาณาจักร โดยใช้แพลตฟอร์มที่ชื่อว่า Kraken ระบบอัตโนมัติที่จะจัดการ “ชาร์จไฟรถยนต์ในช่วงที่ค่าไฟถูก และจ่ายไฟเข้าสู่กริดในช่วงที่มีความต้องการใช้สูง” โดยเพียงแค่เสียบชาร์จไว้อย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง เจ้าของรถยนต์ชาวอังกฤษก็สามารถทำเงินได้ 850 ปอนด์ หรือราว 40,000 บาทต่อปี ในยุคที่วิกฤติโลกรวนเป็นเรื่องเร่งด่วน […]

โดยรพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์วันที่29/03/2427/05/24
บทความ

ปิดสวิตช์ตัวการที่ทำให้ค่าไฟแพง ในงานเสวนา “ปิด-เปิดสวิตช์ โครงสร้างค่าไฟให้แฟร์”

วันที่ 23 มีนาคม ซึ่งตรงกับวัน Earth Hour หรือวันปิดไฟเพื่อโลก กลุ่ม JustPow อันเป็นการร่วมกันขององค์กรที่ทำงานในด้านข้อมูล องค์ความรู้ การสื่อสารในด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ Data Hatch, Epigram, Greenpeace Thailand, JET in Thailand และ Rocket Media Lab จัดงานเสวนา “ปิด-เปิดสวิตช์ โครงสร้างค่าไฟให้แฟร์และโปร่งใส ประชาชนต้องทำอย่างไร” ที่ชั้น L หอศิลปกรุงเทพฯ (BACC) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานนิทรรศการ ‘ปิดสวิตช์อะไรให้ค่าไฟแฟร์ เปิดสาเหตุอะไรทำค่าไฟแพง’ ระหว่างวันที่ 19-24 มีนาคม  สฤณี อาชวานันทกุล หัวหน้าคณะวิจัย Fair Finance Thailand กล่าวถึงปัญหาความไม่เป็นธรรมของโครงสร้างค่าไฟว่า มี 3 ประเด็นด้วยกัน ได้แก่  ประเด็นที่ 1 การที่ไม่มีใครต้องรับผิดชอบกับการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เกินจริง ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดและส่งผลต่อค่าไฟ โดยการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าเกินจริงที่เกิดขึ้นมาตลอด […]

โดยCFNTวันที่25/03/2427/05/24

เครือข่ายการเงินเพื่อรับมือกับภาวะโลกรวน (CFNT)
2 สุขุมวิท ซอย 43 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา
กรุงเทพฯ 10110

  • Climate Finance Network ThailandClimate Finance Network Thailand
  • Climate Finance Network ThailandClimate Finance Network Thailand
  • Climate Finance Network ThailandClimate Finance Network Thailand
  • Climate Finance Network Thailandinfo@climatefinancethai.com
  • Climate Finance Network Thailand+66 96 126 2226
  • เกี่ยวกับเรา
  • งานวิจัย
  • บทความ
  • สื่อ
  • กิจกรรม
  • สมาชิก
  • EN
  • TH

©2025 Climate Finance Network Thailand All right reserved.

นโยบายความเป็นส่วนตัวนโยบายความเป็นส่วนตัว   |   Membership Terms   |   เงื่อนไขการเป็นสมาชิก